ในสถานการณ์ที่โรคไข้เลือดออกยังคงเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์ ซึ่งยังต้องได้รับการป้องกันและเฝ้าระวัง นอกไปจากการทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อกำจัดและป้องกันตนเองจากการถูกยุงลายกัดก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สเปรย์ในการฉีดพ่นยุงลายในครัวเรือน ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย และสามารถจัดการกับยุงลายได้
มีผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการใช้สารเคมีกำจัดยุงลายจากนักวิชาการ ในปี 2557 ที่พบว่า การใช้สเปรย์กระป๋องในการกำจัดยุงลายนั้นได้ผลดีกว่าการใช้เครื่องพ่นสารเคมีชนิดหมอกควันแบบสะพายไหล่ เนื่องจากเมื่อได้ทำการทดสอบและได้เปรียบเทียบจากจำนวนยุงที่ตายแล้วพบว่า การใช้สเปรย์กระป๋องทำให้ยุงมีอัตราการตายในจำนวนเฉลี่ยร้อยละที่มากกว่า ดังนั้น ในบ้านที่มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก รวมไปถึงในทุกๆ บ้านที่ต้องการป้องกันและกำจัดยุงลาย การใช้สเปรย์กำจัดยุงจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ได้ไม่น้อย
ในปัจจุบันสเปรย์กำจัดยุงมีขายในท้องตลาดมากมาย ซึ่งข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า สเปรย์กำจัดยุงมีให้เลือกทั้งสูตรที่มีตัวทำละลายมาจากน้ำ และสูตรที่มีตัวทำละลายมาจากน้ำมัน โดยความแตกต่างของสูตรน้ำและสูตรน้ำมันคือ ละอองของสารของสูตรน้ำจะมีความเสถียรคงทนน้อยกว่าสูตรน้ำมัน จึงทำให้ระยะเวลาในการออกฤทธิ์สิ้นสุดเร็วกว่า แต่ข้อดีของสูตรน้ำคือจะไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขก็ยังได้แนะนำว่า การพิจารณาเลือกซื้อสเปรย์ฉีดยุงกระป๋องนั้น ควรพิจารณาว่าเป็นสเปรย์ที่ระบุว่าใช้สำหรับแมลงบินเท่านั้น เนื่องจากสเปรย์ที่ใช้สำหรับแมลงบินจะถูกออกแบบมาให้มีละอองขนาดเล็ก แตกต่างจากสเปรย์เอนกประสงค์ที่ใช้ได้กับแมลงหลายๆ ชนิดในกระป๋องเดียว ซึ่งจะมีขนาดของละอองในการฉีดพ่นไม่เท่ากัน และละอองจะไม่ลอยในอากาศทั้งหมด จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์กับแมลงบินไม่ส่งผลเท่าที่ควร นอกจากนี้ก็ควรพิจารณาสเปรย์ที่กระป๋องสเปรย์อยู่ในสภาพดี และมีฉลากแสดงข้อความสำคัญต่างๆ อย่างชัดเจนด้วย